Supper Bass

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เรื่่องความรู้เมื่อ สุนัข ป่วย

เพราะสุนัขไม่สามารถบอกได้ว่าตัวเองป่วย ผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องสังเกตุอาการของสุนัขตัวเอง ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ แล้วจึงบอกอาการกับสัตวแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายในการหาสิ่งผิดปกติหรือภาวะที่เจ็บป่วยนั้นอีกที


อาการและวิธีการดูแลเบื้องต้นก่อนนำสุนัขไปหาหมอ

มีขี้ตาน้ำตาไหลกระพริบตาตลอดเวลา
แสดงถึงการอักเสบที่บริเวณตา เยื่อบุตา กระจกตา หรือการมีแผลที่กระจกตา สาเหตุอาจมาจากการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปทำให้เกิดการระคายเคือง อาจเกิดจากไปคุ้ยดินหรือเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ เมื่อมีฝุ่นเข้าตา สุนัขบางตัวอาจแสดงอาการเอาหน้าไถกับพื้น หรือใช้เท้าเขียบริเวณใบหน้าตลอดเวลา การแก้ไขช่วยเหลือเบื้องต้นคือให้หาน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือที่ใช้ล้างแผล ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป มาชะล้างทำความสะอาดที่บริเวณตา จากนั้นค่อยนำไปพบสัตวแพทย์ค่ะ

  • ท้องเสีย อาเจียน


หลักๆ มีสาเหตุมาจากภาวะการติดเชื้อ ซึ่งอาจเป็นได้ตั้งแต่การติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว หรือแม้กระทั่งการมีพยาธิในทางเดินอาหาร หากเราหมั่นสังเกตจะพบว่าสุนัขอาจมีคราบอุจจาระติดอยู่ที่บริเวณรอบทวารหนัก บางตัวอาจมีน้ำลายไหล จากภาวะของการคลื่นไส้ อาเจียน หลายตัวไม่กินอาหาร เนื่องจากมีอาการปวดเกร็ง และกระตุ้นการบีบตัวของทางเดินอาหาร ในกรณีนี้หากเจ้าของเริ่มเห็นว่าสุนัขมีอาการถ่ายเหลว หรืออาเจียน ให้งดอาหารทันที อย่าพยายามฝืนป้อนสุนัข จะเป็นการช่วยลดการเคลื่อนตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ แต่หากงดอาหารแล้วยังมีอาเจียนร่วมด้วย ต้องทำการงดน้ำไปด้วย ลองงดน้ำและอาหารดู 6-8 ชั่วโมง ถ้ายังไม่ดีขึ้น หรือในกรณีของลูกสุนัขตัวเล็กๆ ถ้ามีการถ่ายมากกว่า 2-3 ครั้งขึ้นไป ต้องรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที สำหรับเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดความรุนแรงในลูกสุนัขมากๆ และอาจทำให้สุนัขเสียชีวิตได้เลยก็คือ ลำไส้อักเสบจากเชื้อพาร์โวไวรัสค่ะ โดยที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโดยตรง แต่ใช้การรักษาแบบประคองรักษาตามอาการ 


  • มีไข้ ซึม
รู้ได้แน่นอนจากการวัดไข้ เพราะการสัมผัสผ่านทางมือจะบอกไม่ได้ว่าสุนัขตัวร้อนหรือไม่ เนื่องจากสุนัขอาจไปนอนตากแดด หรือนอนอยู่ในบริเวณที่ร้อนก็เป็นได้ วิธีการคือวัดไข้ผ่านทางทวารหนัก อุณหภูมิปกติไม่ควรเกิน 103.5 องศาฟาเรนต์ไฮต์ หากเกินกว่านี้แสดงว่าเริ่มมีไข้ ป่วยไม่สบาย ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นควรใช้น้ำอุณหภูมิธรรมดาช่วยเช็ดตัว โดยเน้นการเช็ดบริเวณข้อศอก ขาหนีบ ซึ่งเป็นบริเวณที่ไม่มีขนและใช้ในการระบายความร้อนสำหรับสุนัข เมื่อเช็ดตัวให้ไข้ลดลงได้แล้ว ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ทำให้เกิดไข้ ที่อาจมาจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การป่วยเป็นพยาธิในเม็ดเลือด หรือการติดเชื้อในกระแสโลหิตอื่นๆ


  • มีน้ำมูก ไอ จาม
เป็นอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจจากแบคทีเรียหรือไวรัส โดยเชื้อที่ทำให้เกิดความรุนแรงและเสียชีวิตได้คือ ไข้หัดสุนัข และเมื่อสุนัขเกิดภาวะนี้อาจทำให้ความอยากอาหารลดลง เนื่องจากสุนัขจะใช้จมูกในการรับกลิ่น โดยน้ำมูกที่พบอาจมีตั้งแต่สีใส ไปจนถึงสีเขียวข้น อาจเกาะอยู่ข้างๆ จมูก เจ้าของควรพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยโรคต่อไป 
  • ผิวหนังคัน เกา มีรังแค

    รวมถึงมีสะเก็ดเป็นขุยๆ ลอกออกมา ผิวหนังที่ขอบหูและรอบดวงตาหนาตัว อาจมาจากการเป็นโรคขี้เรื้อน ที่มีอาการคันตามตัว และไรในหู ซึ่งจะสังเกตว่าสุนัขจะคันเกาบริเวณช่องหูเป็นอย่างมาก บางตัวมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังก็อาจพบแผลจากการเกา หรือใช้ปากกัดที่บริเวณที่คัน จะเห็นเป็นคราบน้ำลายเปียกๆ อยู่บนผิวหนัง การมีเห็บ หมัด เหา ก็จะทำให้สุนัขคันบริเวณผิวหนังตามตัวเช่นกัน บางตัวเกาจนเป็นแผลถลอก เมื่อเจ้าของสงสัยว่ามีปัญหาโรคผิวหนัง ให้รีบพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะโรคผิวหนังบางอย่างสามารถติดต่อไปยังสุนัขตัวอื่นได้ หรือในบางโรคก็สามารถติดมายังคนได้เช่นกัน
    สุขภาพของเหงือกและฟัน
    เป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สุนัขบางตัวเมื่อเปิดช่องปากออกมาพบว่ามีกลิ่นรุนแรง อาจเกิดจากการมีหินปูน เหงือกอักเสบ หรือมีฟันผุ ในสุนัขที่อายุมากกว่า 8 ปีขึ้นไป บางรายอาจพบเนื้องอกในช่องปาก มีการขยายใหญ่ของก้อนเนื้อ และเกิดเป็นเนื้อตายตามมาภายหลัง สุนัขอาจแสดงอาการเลียลิ้นบ่อยๆ หรือ ทำท่าคล้ายเคี้ยวอะไรอยู่ในช่องปาก แนะนำว่าควรแปรงฟันให้สุนัขทุกวันถ้าทำได้ ยาสีฟันที่ใช้ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสุนัขเท่านั้น ไม่ควรดัดแปลงเอายาสีฟันของคนมาใช้ในสุนัขค่ะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น